บทที่1 คำนมัสการคุณานุคุณ
คำนมัสการคุณานุคุณ
เป็นผลงานการประพันธ์ของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อยอาจารยางกูร)
มีเนื้อหาว่าด้วยการน้อมรำลึกและสำนึกในคุณงามความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
บิดามารดา และครูอาจารย์ โดยมีความมุ่งหมายให้ผู้อ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนไทย
ยึดมั่นในความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณและนำแบบอย่างอันดีงามไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
๑. ความเป็นมา
คำนมัสการคุณานุคุณที่คัดมาให้ศึกษามีเนื้อหาแบ่งออกเป็น ๕ ตอน
แต่ละตอนมีที่มาจากคาถาภาษาบาลี ดังนี้
คำนมัสการพระพุทธคุณ : อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ
คำนมัสการพระธรรมคุณ
:สวาก ขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ
คำนมัสการพระสังฆคุณ :
สุปะฏิปปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ
คำนมัสการพระอาจริยคุณ : ครูอาจารย์ผู้ใหญ่และผู้น้อยทั้งหลายล้วนเป็นผู้มีพระคุณอันประเสริฐยิ่ง
ได้อบรมสั่งสอนให้ศิษย์มีวิชาความรู้ ได้ให้โอวาทตักเตือนด้วยเมตตาธรรม
ข้าพเจ้าขอกราบไว้คุณครูอาจารย์เหล่านั้นด้วยความเคารพ
๒. ประวัติผู้แต่ง
พระยาศรีสุนทรโวหาร
(น้อย อาจารกูร)
เป็นนักปราชญ์คนสำคัญของไทยในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้รอบรู้ในวิชาภาษาไทยและได้ชื่อว่าเป็นข้าราชการที่จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
ทั้งยังเป็นครูที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม อุทิศชีวิตเพื่อพัฒนาการศึกษาของชาติอีกด้วย
๓. ลักษณะคำประพันธ์
คำนมัสการคุณานุคุณแต่ละตอนแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทต่างๆดังนี้
๓.๑
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
อินทรวิเชียรฉันท์
๑๑ เป็นฉันท์ที่นำมาแต่งคำนมัสการคุณานุคุณ มาตาปิตุคุณ และอาจริยคุณ
มีลักษณะบังคับ ดังแผนผังต่อไปนี้
๓.๒ กาพย์ฉบัง ๑๖
กาพย์ฉบัง ๑๖
เป็นกาพย์ที่นำมาแต่งคำนมัสการพระธรรมคุณและพระสังฆคุณมีลักษณะบังคับ
ดังแผนผังต่อไปนี้
๔. เนื้อเรื่อง
คำนมัสการพระพุทธคุณ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธะสันดาน
ตัดมูลกิเลสมาร บ่มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคีบ่พันพัว สุวคนธะกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ลูกขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ยภาพนั้นนิรันดร ฯ
ตัดมูลกิเลสมาร บ่มิหม่นมิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคีบ่พันพัว สุวคนธะกำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆะกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก- ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ลูกขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ- ยภาพนั้นนิรันดร ฯ
คำนมัสการพระธรรมคุณ
กาพย์ฉบัง ๑๖
ธรรมะคือคุณากร
|
ส่วนชอบสาธร
|
||
ดุจดวงประทีปชัชวาล
|
|||
แห่งองค์พระศาสดาจารย์
|
ส่องสัตว์สันดาน
|
||
สว่างกระจ่างใจมล
|
|||
ธรรมใดนับโดยมรรคผล
|
เป็นแปดพึงยล
|
||
และเก้านับทั้งนฤพาน
|
|||
สมญาโลกอุดรพิสดาร
|
อันลึกโอฬาร
|
||
พิสุทธิ์พิเศษสุกใส
|
|||
อีกธรรมต้นทางครรไล
|
นามขนานขานไข
|
||
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง
|
|||
คือทางดำเนินดุจครอง
|
ให้ล่วงลุปอง
|
||
ยังโลกอุดรโดยตรง
|
|||
ข้าขอโอนอ่อนอุตมงค์
|
นบธรรมจำนง
|
||
ด้วยจิตและกายวาจาฯ
|
|||
คำนมัสการพระสังฆคุณ
กาพย์ฉบัง ๑๖
สงฆ์ใดสาวกศาสดา
|
รับปฏิบัติมา
|
||
แต่องค์สมเด็จภควันต์
|
เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร-
|
||
ลุทางที่อัน
|
ระงับและดับทุกข์ภัย
|
||
โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร
|
|||
สะอาดและปราศมัวหมอง
|
เหินห่างทางข้าศึกปอง
|
||
บ มิลำพอง
|
ด้วยกายและวาจาใจ
|
||
เป็นเนื้อนาบุญอันไพ-
|
ศาลแด่โลกัย
|
||
และเกิดพิบูลย์พูนผล
|
สมญาเอารสทศพล
|
||
มีคุณอนนต์
|
อเนกจะนับเหลือตรา
|
||
ข้าฯ ขอนบหมู่พระศรา-
|
พกทรงคุณา-
|
||
นุคุณประดุจรำพัน
|
ด้วยเดชบุญข้าอภิวันท์
|
||
พระไตรรัตน์อัน
|
อุดมดิเรกนิรัติศัย
|
||
จงช่วยขจัดโพยภัย
|
อันตรายใดใด
|
||
จงดับและกลับเสื่อมสูญ ฯ
|
|||
คำนมัสการมาตาปิตุคุณ |
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
ข้าขอนบชนกคุณ
ชนนีเป็นเค้ามูล
ผู้กอบนุกูลพูน ผดุงจวบเจริญวัย
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล
แสนยากเท่าไรไร บ คิดยากลำบากกาย
ตรากทนระคนทุกข์ ถนอมเลี้ยง ฤ รู้วาย
ปกป้องซึ่งอันตราย จนได้รอดเป็นกายา
เปรียบหนักชนกคุณ ชนนีคือภูผา
ใหญ่พื้นพสุนธรา ก็ บ เทียบ บ เทียมทัน
เหลือที่จะแทนทด จะสนองคุณานันต์
แท้บูชไนยอัน อุดมเลิศประเสริฐคุณ
ผู้กอบนุกูลพูน ผดุงจวบเจริญวัย
ฟูมฟักทะนุถนอม บ บำราศนิราไกล
แสนยากเท่าไรไร บ คิดยากลำบากกาย
ตรากทนระคนทุกข์ ถนอมเลี้ยง ฤ รู้วาย
ปกป้องซึ่งอันตราย จนได้รอดเป็นกายา
เปรียบหนักชนกคุณ ชนนีคือภูผา
ใหญ่พื้นพสุนธรา ก็ บ เทียบ บ เทียมทัน
เหลือที่จะแทนทด จะสนองคุณานันต์
แท้บูชไนยอัน อุดมเลิศประเสริฐคุณ
คำนมัสการอาจริยคุณ
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
อนึ่งข้าคำนับน้อม ต่อพระครูผู้การุณ
|
|||
โอบเอื้อและเจือจุน
|
อนุศาสน์ทุกสิ่งสรรพ์
|
||
ยัง บ ทราบก็ได้ทราบ
|
ทั้งบุญบาปทุกสิ่งอัน
|
||
ชี้แจงและแบ่งปัน
|
ขยายอรรถให้ชัดเจน
|
||
จิตมากด้วยเมตตา
|
และกรุณา บ เอียงเอน
|
||
เหมือนท่านมาแกล้งเกณฑ์
|
ให้ฉลาดและแหลมคม
|
||
ขจัดเขลาบรรเทาโม
|
หะจิตมืดที่งุนงม
|
||
กังขา ณ อารมณ์
|
ก็สว่างกระจ่างใจ
|
||
คุณส่วนนี้ควรนับ
|
ถือว่าเลิศ ณ แดนไตร
|
||
ควรนึกและตรึกใน
|
จิตน้อมนิยมชม
|
||
บทวิเคราะห์
คุณค่าด้านเนื้อหา
๑. คำนมัสการพระคุณ มีเนื้อหาสำคัญคือ
การสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า
๒. คำนมัสการพระธรรมคุณ พระธรรมคือ
คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
๓. คำนมัสการพระสังฆคุณ ถ้าพรพุทธองค์ไม่ได้ทรงสถาปนาคณะสงฆ์ขึ้นหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบย่อมสูญสิ้นไปพร้อมกับเสด็จดับขันธ์ปรินิพาน
๔. คำนมัสการมาตาปิตุคุณ มารดาบิดาเป็นผู้มีพระคุณก่เราเพราเป็ผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูเราโดยไม่หวังผลตอบแทน
๕. คำนมัสการอาจริยคุณ เนื่องด้วยครูอาจารย์เป็นผู้มีพระคุณแก่เราเพราะเป็นผู้อบรมสั่งสอนและถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่เรา
คุณค่าด้านกลวิธีการแต่ง
๑. การเลือกสรรคำเหมาะกับเนื้อเรื่อง
กวีเลือกสรรถ้อยคำนำมาใช้ได้อย่างไพเราะเหมาะสม
๒. การเลือกสรรคำที่มีเสียงเสนาะ
กวีใช้ความงามและเสียงเสนาะในการอ่าน นอกเสียงโดยการใช้สัมผัสอักษรละสัมผัสสระ
ได้แก่ สัมผัส การเล่นคำ
๓. ภาพพจน์
กวีใช้การเปรียบเทียบแบบอุปมาเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดเจนขึ้น
เมื่อประมวลความดีเด่นด้านเนื้อหาและวรรณศิลป์แล้ว
คำนมัสการคุณานุคุณจึงถือว่ามีความครบเครื่องในเรื่องคุณค่าทางวรรณกรรม
ควรแก่การท่องจำ เพื่อเป็ยเครื่องช่วยกำกับกาย วาจา ใจ
และเตือนสติให้ทุกคนโดยเฉพาะเยาวชนไทยได้สำนึกและน้อมรำลึกถึงพระคุณของพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา และครูอาจารย์ สมดังเจตนารมณ์ของพระยาศรีสุนทรโวหาร
ผู้ประพันคำนมัสการคุณานุคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น